หนังเทียม PU คุณภาพดี

หนังเทียม PU มีอยู่ด้วยกัน 3 ประเภท

หนังเทียม PU คือ เราสามารถแบ่งออกได้เป็น  หนัง PU หนัง Semi-PU และหนัง PVC แต่ในที่นี้เราจะมาพูดถึงหนังเทียมที่มีคุณสมบัติ และการสัมผัสที่เหมือนหนังแท้มากที่สุดและดีที่สุดในบรรดาหนังเทียมทั้งหมด นั่นก็คือ หนังเทียม PU หนังเทียมประเภท PU  มีขั้นตอนการผลิตที่สะอาด ไร้มลพิษที่ตกค้างในผลิตภัณฑ์ของหนังเทียม จึงทำให้แม้กระทั่งของเล่นเด็กที่ขายกันในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว เช่นประเทศทางยุโรป ญี่ปุ่น อเมริกา ใช้พลาสติกประเภทพ PU เป็นวัตถุดิบในการผลิตเป็นส่วนใหญ่ก็ว่าได้

แม้กระทั่งหนังเทียม PU จะมีราคาสูงและมีอายุการใช้งานซึ่งจะมีการเสื่อมและการย่อยสลายไปเอง แต่ทุก ๆ คนก็ยังพึงพอใจในคุณภาพและที่จะเลือกใช้หนังเทียม PU ในสินค้าหลายประเภทที่มีอยู่ในท้องตลาดปัจจุบันนี้ และความต้องการก็ยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการรณรงค์ต่อต้านการฆ่าสัตว์หลายประเภทหรือการรณรงค์ต่อต้านมลภาวะสิ่งแวดล้อม ทั้ง 2 ปัจจัยนี้ยังเป็นแรงผลักดันให้ความต้องการของหนังเทียม PU นี้สูงขึ้นในทุก ๆวัน

หนังเทียม PU แบ่งได้ตามกรรมวิธีการผลิตอยู่ 2 ประเภท

หนังเทียม PU มีด้วยกัน 2 ประเภท แบบอบแห้ง และแบบผ่านน้ำ ซึ่งมีการแบ่งแยกตามรูปแบบของการผลิต

หนังเทียม PU แบบอบแห้ง มี 3 ชั้นคือ ชั้นสี ชั้นกาว และชั้นผ้า ในหนังเทียม PU แบบผ่านน้ำ ก็มี 3 ชั้นเช่นเดียวกัน แต่ในชั้นผ้านั้นจะนำไปโคมหรือเคลือบด้วยเนื้อหนังเทียม PU ก่อนเพื่อให้เนื้อสัมผัสเหมือนหนังแท้ยิ่งขึ้น ซึ่งในขั้นตอนการเคลือบหรือโคมด้วยเนื้อหนังเทียม PU บนผ้านั้นต้องผ่านน้ำเพื่อสร้างเนื้อหนังเทียม PU เครื่องเคลือบหรือโคมหนังเทียม PU บนผ้าที่ต้องผ่านน้ำเรียกว่ากระบวนการเคลือบหนังนั่นเอง

หนังเทียม PU ข้อควรรู้ในการเลือกซื้อ

ในภาวการณ์การแข่งขันที่สูงแบบนี้ปัจจุบัน ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าจะมีหลายโรงงานที่ลดต้นทุนมากจนลืมสามัญสำนึกในการเป็นผู้ผลิตสินค้าที่ดี ใช้วัสดุในการผลิตที่ไม่มีคุณภาพทำให้มาตรฐานไม่ถึง มีสีคุณภาพต่ำทำให้เวลาโดนแดดแล้วสีเปลี่ยนโดยเฉพาะสีขาวถ้าไม่ใช้สีที่ดีแล้วเวลาเก็บไว้แล้วจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง การลดต้นทุนโดยใช้วัสดุประเถชภทฟิลเลอร์หรือเป็นพวกเยื่อไม้ ซึ่งราคาถูกกว่าเนื้อหนังเทียม PU กว่าครึ่งหรือพวกคัลเซียมที่ได้จากการระเบิดหินภูเขาซึ่งกิโลละประมาณ 4-5 บาท ในขณะที่เนื้อหนังเทียม PU ราคากว่าร้อยบาทต่อกิโลกรัม เมื่อผสมไปในส่วนผสมอย่างไร้มาตรฐานแล้วจะทำให้อายุการใช้งานและการทนทานต่อกรดด่างน้อยลงซึ่งสินค้าเหลืออยู่แค่ 3-4 เดือนก็เสื่อมแล้ว

มีอีกหลายกรณีนี้เกิดขึ้นกับสินค้าที่มาจากประเทศจีนซึ่งจากที่ได้เดินทางไปดูตลาดหนังเทียมและเยี่ยมชมหลายโรงงานที่นั่นได้พบว่ามีการลดต้นทุนของหนังเทียมกันมาก เช่น บางบริษัทเอาเทปกาวแปะและดึงออกเนื้อก็หลุดออกมาแล้ว นั่นแสดงว่าเนื้อหนังเทียม PU ไม่มีแรงยึดเกาะที่ดี หรือไม่ก็ลองฉีกดูบางบริษัทฉีกขาดได้ง่ายราวกับกระดาษ นั่นหมายความว่าเป็นการลดต้นทุนของหนังเทียมในเรื่องราคาผ้าทำให้โครงสร้างผ้าไม่ดีไปเลย

นี่เป็นแค่บางตัวอย่างที่ยกมาให้ดูกัน เพราะฉะนั้นเราจึงไม่ควรมองเรื่องราคาเพียงอย่างเดียวในการตัดสินใจเลือกซื้อหนังเทียม PU  หนังเซมิพียูก็ คือหนังเทียม PU  เพียงแต่ว่าชั้นผ้าที่ผ่าการเคลือบเนื้อหนังเทียม PU จะมาใช้เป็นพีวีซีแทน ยังคงชั้นสีและกาวเป็นหนังเทียม PU เพื่อรักษาสัมผัสของความเหมือนหนังแท้ของหนังเทียม PU อยู่ หนังพีวีซีคือหนังเทียมราคาถูกที่สุดในหมู่หนังเทียมทุกชนิด